ประเทศจีน เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวต่างประเทศที่คนไทยนิยมไปเที่ยวกันมากที่สุด

พาไปเที่ยวที่ภูเขาหิมะเจียวจื่อและแผ่นดินตงชวน แห่งเมืองคุนหมิง  4 วัน 3 คืน

ภูเขาหิมะเจียวจื่อ เป็นแหลงท่องเที่ยวใหม่ที่กำลังโด่งดังอย่างรวดเร็วของเมืองคุนหมิง และได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนไม่น้อยที่ตั้งใจไปสัมผัสหิมะด้วยการเดินทางแบบสบายๆ และค่าใช้จ่ายไม่สูงเกินไป  ก่อนจะเล่าเรื่องการเดินทางพาไปเที่ยวเมืองจีนด้วยกัน เราจะพาคุณไปเตรียมตัวและเตรียมเอกสารก่อนเดินทางไปเที่ยวประเทศจีนอย่างละเอียด เพื่อให้คุณได้ไปสัมผัสความงดงามของภูเขาหิมะที่สูงที่สุดในมณฑลยูนนานของประเทศจีนแบบไม่มีปัญหา

การเตรียมตัวไปเที่ยวประเทศจีน

การเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศจีน ในปัจจุบันปี พ.ศ. 2568 ค่อนข้างง่ายสำหรับคนไทย เพราะเราไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศจีน แต่สำหรับคนที่ไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศหรือเคยไปบ้างแล้วแต่ยังกังวลว่าจะไม่ได้รับความสะดวกและต้องการความอุ่นใจโดยมีคนไทยที่ไว้ใจได้คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ

แนะนำว่าการเดินทางไปกับบริษัททัวร์ที่มีใบอนุญาตนำเที่ยวถูกต้องและเชื่อถือได้จะดีที่สุด เราเพียงแค่ศึกษาโปรแกรมทัวร์ที่สนใจให้ดีแล้วก็จ่ายค่าทัวร์ หลังจากนั้นทีมงานของบริษัทนำเที่ยวจะช่วยให้คำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนการเดินทางเป็นอย่างดี พาไปเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวไฮไลท์ครบตามโปรแกรมแน่ๆ ที่สำคัญที่สุดคือได้เที่ยวในราคาที่ชัดเจนโดยงบประมาณไม่บานปลายแน่นอน โดยมีมีหัวหน้าทัวร์คนไทยร่วมเดินทางไปเป็นพี่เลี้ยงคอยอำนวยความสะดวกทำให้อุ่นใจตลอดการเดินทางเลยทีเดียว

การเตรียมเอกสาร และการเตรียมตัวไปเที่ยวภูเขาหิมะเจียวจื่อ

ปัจจุบันในปี พ.ศ. 2568 สำหรับนักท่องเที่ยวคนไทยที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวประเทศจีน  ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอวีซ่า แต่ก็ยังจำเป็นต้องมีหนังสือเดินทางที่เรียกว่า PASSPORT ซึ่งเปรียบเสมือนบัตรประชาชนโลกที่ใช้ยืนยันตัวตนของเรา เป็นมาตรฐานเดียวกันใช้ในทุกประเทศ แต่ต้องระวังให้มากคือหนังสือเดินทาง (Passport) จะต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนในวันเดินทางกลับไทย และต้องมีหน้าว่างสำหรับประทับตราอย่างน้อย 2 หน้า

นอกจาก PASSPORT แล้ว เรายังต้องมีเอกสารสำคัญที่ต้องนำไปยื่นให้ ตม. หรือหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของจีนอีก 1 ใบ ซึ่งถ้าไปกับบริษัททัวร์ เจ้าหน้าที่ก็มักจะอำนวยความสะดวกกรอกเอกสารเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว  ไม่ต้องกังวลว่าจะกรอกไม่ถูกหรือกรอกไม่รู้เรื่องจนโดน ตม. เชิญตัวไปสัมภาษณ์ส่วนตัวในห้องที่บรรยากาศไม่ค่อยดีซักเท่าไร เพราะหากโดน ตม.จีนกักตัวไปสัมภาษณ์พิเศษ คนที่ถูกเรียกนอกจากจะรู้สึกกดดันแล้วยังทำให้เสียเวลาไม่น้อยเลยทีเดียวกว่าจะออกมาได้ หรือถ้าเจ้าหน้าที่ไม่พอใจเราก็อาจไม่ได้เข้าไปเที่ยวในประเทศของเขาก็ได้ อย่างที่เคยได้ยินบ่อยๆ โดยเฉพาะในการไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลี

ข้อแนะนำพิเศษ สำหรับคนที่ไปทำศัลยกรรมใบหน้าจนหน้าจริงกับรูปใน Passport ดูไม่เหมือนกัน แนะนำเลยว่า ให้ไปทำหนังสือ Passport ใหม่จะดีที่สุด ถ้าไม่อยากโดนแยกตัวไปสัมภาษณ์เดี่ยว ซึ่งปกติเราก็ไม่สามารถสื่อสารภาษาจีนกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของจีนถึงขั้นสามารถรับมือกับปัญหาที่โดนแยกตัวไปสัมภาษณ์เดี่ยวได้ดีเท่าไรนัก และกรณีนี้หัวหน้าไกด์คนไทยก็ไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ด้วย แต่ที่เคยเจอเคสแบบนี้มาบ้าง ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของจีนก็อลุ่มอล่วยให้ แต่ก็คงทำให้เจ้าตัวที่มีปัญหาเองตื่นเต้นไม่น้อยเหมือนกัน

สิ่งสำคัญในการเดินทางไปเที่ยวภูเขาหิมะเจียวจื่อ ที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้

นอกจากหนังสือเดินทางแล้ว  สิ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยอีก 1 อย่างคือ การทำประกันการเดินทางครอบคลุมกิจกรรมบนภูเขาที่มีความสูงเกิน 3,000 เมตร โดยมีวงเงินคุ้มครองไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ภูเขาเจียวจื่อมีความสูงมากกว่า 4,500 เมตร และคนไทยไม่คุ้นเคยกับสภาพพื้นที่สูงมากๆ มาก่อน โดยเฉพาะที่ระดับความสูงมากกว่า 3 ,000 เมตรจะมีระดับออกซิเจนค่อนข้างต่ำซึ่งอาจจะทำให้มีปัญหาสุขภาพได้ แม้ว่าจะไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงแต่การทำประกันภัยคุ้มครองการรักษาไว้ล่วงหน้าจะเป็นอะไรที่อุ่นใจมากที่สุด หากเกิดเหตุจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาตัวฉุกเฉินในโรงพยาบาลต่างประเทศจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาตัว ซึ่งปกติบริษัททัวร์ที่พาไปเที่ยวจะทำประกันคุ้มครองให้นักท่องเที่ยวทุกคนในกรุ๊ป โดยคิดค่าทำประกันคุ้มครองรวมไปกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยอยู่แล้ว

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการไปเที่ยวประเทศจีน ถ้าไม่อยากพลาดทุกช่องทางออนไลน์ที่คุ้นเคย

การไปเที่ยวในประเทศจีน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะรู้กันดีอยู่แล้วว่าระบบบริการอินเตอร์เน็ตทั้งหมดในประเทศจีนจะไม่สามารถใช้งานกับแอพดังๆ ที่เราคุ้นเคยอย่าง FACEBOOK, LINE และ GOOGLE  หากไปใช้ซิมอินเตอร์เน็ตจีนหรือไวไฟฟรีในโรงแรมที่จีน เราจะไม่สามารถใช้งานแอพข้างต้นทั้งหมดได้เลย และยังอาจจะมีแอพอื่นอีกด้วยก็ได้ ซึ่งเรื่องนี้เป้นนโยบายที่ทางรัฐบาลจีน BLOCK สัญญาณด้วยเหตุผลความมั่นคงของเขา เราที่ไปเที่ยวไม่สามารถแก้ไขอะไรเพื่อเปิดแอพเหล่านั้นได้เลย

แต่ปัญหาการเปิดใช้แอพดังกล่าวจะไม่เป็นอุปสรรคเลยกับคนที่ใช้ซิมอินเตอร์เน็ตไทย แต่ต้องลงทะเบียนและเปิดใช้บริการโรมมิ่งไปให้เรียบร้อยจากประเทศไทย เมื่อไปถึงประเทศจีนเพียงเปิดสัญญาณโรมมิ่งระบบก็จะทำการเชื่อมต่อสัญญาณกับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในจีนโดยอัตดนมัติ เท่านี้เราก็สามารถใช้อินเตอร์เน็ตกับทุกแอพได้ตามปกติเหมือนอยู่ในประเทศไทย

แต่ก็อยากแนะนำว่าควรซื้อซิมอินเตอร์เน็ตแพคเกจเที่ยวต่างประเทศโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ที่เคาน์เตอร์บริการในสนามบินได้เลย ให้เจ้าหน้าที่ลงทะเบียนเปิดใช้งานให้เรียบร้อยจะสะดวกและค่อนข้างปลอดภัยกว่า โดยเฉพาะซิมโทรศัพท์ประเภทรายเดือนถ้าไปเปิดโรมมิ่งที่จีนแล้วมีบังเอิญมีคนโทรเข้าและเราเผลอกดรับสายคุยนานๆ รู้ไหมว่ากลับมาถึงไทยแล้วเราต้องมาจ่ายค่าโทรศัพท์สูงสุดทั้งที่รับสายและโทรออกนาทีละร่วม 40 บาท เคยมีเคสที่บางคนกลับถึงไทยเจอค่าบริการโทรศัพท์เข้าไปหลายหมื่นบาทแพงกว่าค่าตั๋วที่ไปเที่ยวเสียอีก

วันเดินทาง เจอกันที่จุดนัดพบเคาน์เตอร์เช็คอินในสนามบิน

ในที่สุดเมื่อถึงกำหนดวันเดินทาง ถ้าไปกับบริษัททัวร์เจ้าหน้าที่ก็จะกำหนดจุดนัดพบกันที่ใกล้ๆ เคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบินที่จะเดินทาง ณ อาคารผู้โดยสารขาออก โดยปกติจะนัดล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมงก่อนขึ้นบิน และเราเองก็ต้องรักษาเวลาให้เคร่งครัดด้วย เพราะเราต้องใช้เวลาผ่านหลายด่านกว่าจะได้ขึ้นบินจริง โดยเราจะได้เจอกับหัวหน้าทัวร์คนไทยที่จะพาเราเดินทางไปด้วยกัน และมีเจ้าหน้าที่งานสนับสนุนของบริษัททัวร์มาช่วยอำนวยความสะดวก ช่วยตรวจเช็คเอกสารหนังสือเดินทาง  ติดแท็กที่กระเป๋าเดินทาง (Luggage Tag)  พร้อมทั้งอธิบายรายละเอียดขั้นตอนในการเช็คอินออกตั๋ว โหลดสัมภาระ การเข้า GATE และขั้นตอนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ก่อนพาไปที่ GATE เพื่อรอเรียกขึ้นเครื่องอีกที

ขั้นตอนการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง 

ขั้นตอนการผ่านด่านตม. หรือด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้งในการออกจากประเทศไทย และการผ่าน ตม. เข้าไปในประเทศจีน ก็ไม่ได้ยากอะไร แต่ก่อนถึงด่านนี้เราจะต้องผ่านด่านตรวจของต้องห้ามไปก่อน โดยเฉพาะสิ่งที่ใช้เป็นอาวุธได้ รวมถึงของเหลวต่างๆ  ห้ามเผลอติดตัวไปขึ้นเครื่องเด็ดขาด เราต้องฟังหัวหน้าทัวร์ตอนชี้แจงให้ดี ถ้ามีของต้องห้ามที่อนุญาตให้นำไปได้แต่ห้ามติดตัวขึ้นเครื่องก็ต้องแพ็คลงกระเป๋าใหญ่ในขั้นตอนการเช็คอินโหลดขึ้นเครื่องไปก่อน ห้ามเผลอนำติดตัวไปขึ้นเครื่องบินเด็ดขาด

สำหรับคนที่อยากจะพกเสบียงติดตัวไปด้วย ต้องรู้ว่าทั้งพืชและเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้แปรรูป หรือการที่แปรรูปแล้วบางอย่างเป็นของต้องห้ามไม่สามารถนำเข้าไปในประเทศจีนได้  ดังนั้นถ้าจะเอาเสบียงอาหารติดตัวไปด้วยต้องถามทางบริษัททัวร์ให้ดีเสียก่อน  ว่าอะไรนำไปได้ อะไรนำไปไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากให้กังวลเรื่องนี้มากนัก เพราะอาหารจีนสำหรับกรุ๊ปทัวร์ไทย ปัจจุบันได้มีการปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น และหัวหน้าทัวร์ก็มักมีอาหารเสริมที่รู้ใจคนไทยติดตัวไปช่วยเพิ่มรสชาติให้เราได้กินถูกปากมากยิ่งขึ้นอยู่แล้ว

เดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติคุนหมิงฉางฉุ่ย มณฑลยูนนาน ประเทศจีน

เมื่อผ่านด่าน ตม. ของไทยเพื่อเดินทางออกนอกประเทศได้แล้ว เราก็สามารถใช้เวลาช็อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีในสนามบินระหว่างรอเรียกขึ้นเครื่องก็ได้  เมื่อได้เวลาเราก็เดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติคุนหมิงฉางฉุ่ย มณฑลยูนนาน ประเทศจีน โดยใช้เวลาบินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ ถ้าเป็นสายการบินคุนหมิงแอร์ไลน์ เมื่อเราบินเดินทางได้ประมาณครึ่งทาง ระหว่างที่เรานั่งดูปุยเมฆเพลินๆ แอร์สาวสวยและสจ๊วตหนุ่มหล่อก็จะมีอาหารว่างหรืออาหารหลักมาบริการให้ด้วย แต่จะได้กินอะไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาไฟท์บินของเราว่าเป็นช่วงเวลามื้ออาหารหลักหรือมื้ออาหารว่าง  รสชาติก็จะออกแนวอาหารจีนหน่อยที่คนชอบเพียงอาหารไทยเท่านั้นอาจต้องทำใจนิดนึง

ผ่านด่าน ตม. ท่าอากาศยานนานาชาติคุนหมิงฉางฉุ่ย

เมื่อเครื่องบินนำเราเดินทางถึงสนามบินคุนหมิงเรียบร้อย ก็ต้องผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองของจีนซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญสุดท้ายก่อนได้เข้าไปเที่ยวในประเทศจีน ซึ่งบอกได้เลยว่าที่สนามบินคุนหมิงนั้น เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่เอ็กซเรย์กระเป๋าเขาทำงานเข้มแข็งมาก จนทำให้คนที่ไม่คุ้นชินอาจจะเกร็งโดยไม่รู้ตัว แต่ถ้าเรารู้ขั้นตอนและมีเอกสารการเดินทางถูกต้อง ทุกอย่างก็จะราบรื่นไม่ได้น่ากังวลแต่อย่างใด ซึ่งในขั้นตอนนี้หัวหน้าทัวร์ที่เดินทางไปด้วยจะอธิบายตลอดทุกขั้นตอนอย่างชัดเจน และยืนเป็นพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลืออยู่ใกล้ๆ เป็นหลักประกันความอบอุ่นใจโดยเฉพาะคนที่มีทักษะด้านภาษาต่างประเทศค่อนข้างน้อยได้เป็นอย่างดี

ออกจากสนามบินคุนหมิง เดินทางตามโปรแกรมท่องเที่ยว

ในที่สุดเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย และทุกคนผ่านด่าน ตม. ออกมาแล้ว หัวหน้าทัวร์ก็จะนำเราไปรับกระเป๋าเดินทางที่โหลดใต้ท้องเครื่องมา จากนั้นก็จะออกมาเจอไกด์ท้องถิ่นและรถนำเที่ยวที่มารอรับเพื่อเข้าสู่โปรแกรมทัวร์ต่อไป

ปกติกฎหมายธุรกิจนำเที่ยวในแต่ละประเทศก็จะคล้ายๆ กัน คือคนที่จะทำหน้าที่ไกด์พาเที่ยวต้องเป็นคนท้องถิ่นที่มีใบอนุญาตนำเที่ยวในพื้นที่นั้นๆ หัวหน้าคณะทัวร์ความจริงก็คือไกด์ไทยจึงต้องลดสถานะลงมาเป็นแค่พี่เลี้ยงคอยดูแลและให้ความสะดวกในเรื่องทั่วๆ ไปเท่านั้น แต่ไกด์จีนพูดไทยเก่งกันมาก ส่วนใหญ่เขาผ่านการเรียนหลักสูตรภาษาไทยแบบจริงจัง จึงสามารถสื่อสารและนำพวกเราเข้าไปเที่ยวในประเทศจีนได้อย่างสนุกและไม่มีปัญหาอะไรเลย

และต่อจากนี้ไปก็คอยติดตามเรื่องราวที่เราพาคนไทยไปเที่ยวในเมืองคุนหมิง 4 วัน 3 คืน โดยเน้นไปเที่ยวภูเขาหิมะเจียวจื่อที่โด่งดัง และแผ่นดิน 7 สีตงชวนอันเลื่องชื่อ ส่วนใครที่สนใจจะไปเที่ยวด้วยกันหรือแบ่งปันประสบการณ์ก็ทักมาได้นะครับ